การปลูกแตงโมจะนิยมทำหลังช่วงเก็บเกี่ยวข้าวในเดือนพฤศจิกายน ใช้เวลาปลูกเพียง 2 เดือนเศษ หรือประมาณ 60-70 วัน จะสามารถเก็บผลผลิตได้
การทำนาข้าวในปัจจุบัน นอกจากจะมีปัญหาเรื่องน้ำที่ทำให้ผลผลิตลดลง ยังมีแนวโน้มว่าราคาข้าวจะลดลงเช่นกัน เกษตรกรตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร จึงหันมาปลูกแตงโม ซึ่งเป็นพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย เพื่อหารายได้ทดแทน
สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลป่ามะคาบ ประเสริฐ วงศ์ษา บอกว่า การปลูกแตงโมจะนิยมทำหลังช่วงเก็บเกี่ยวข้าวในเดือนพฤศจิกายน ใช้เวลาปลูกเพียง 2 เดือนเศษ หรือประมาณ 60-70 วัน จะสามารถเก็บผลผลิตได้ ซึ่งในช่วงปลายเดือนมกราคมเป็นช่วงที่ให้ผลผลิตดี และแตงโมออกสู่ตลาดน้อย ทำให้มีราคาสูง ถึงกิโลกรัมละ 9-10 บาท
การปลูกแตงโมในพื้นที่เพียง 1 ไร่ จะได้ผลผลิตประมาณ 5-6 พันกิโลกรัม หรือประมาณ 4 หมื่นบาทต่อไร่ ถือว่าสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับการทำนาข้าวที่ได้เพียง 7 พันบาทต่อไร่เท่านั้น ซึ่งตนใช้พื้นที่ 11 ไร่ในการปลูกแตงโม สามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่าครั้งละ 3 แสนบาท
สำหรับการขายผลผลิต จะมีพ่อค้าแม่ค้า มารับซื้อถึงหน้าสวน ในช่วงนี้ราคาผลใหญ่ กิโลกรัมละ 9 บาท ขนาดกลาง 7 บาท และ ขนาดเล็ก กิโลกรัมละ 5 บาท ถือว่ามีราคาสูง ส่วนรายได้ เมื่อเทียบกับการทำนา ถือว่าการทำไร่แตงโมให้ผลผลิต และ สร้างรายได้ ดีกว่านาข้าว ในช่วงราคาตกต่ำ จึงเป็นพืชทางเลือกและเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตร
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/985614